top of page

Aitsara Kanchananiwatse


“ตื่นมานึกว่าใส่คอนแทคเลนส์นอน ภาพชัดแจ๋ว ที่ต่างจากคอนแทคเลนส์คือ ไม่เคืองตา ไม่รู้สึกว่ามีอะไรอยู่ในตา และตาไม่แห้ง คือดีย์ ชอบเลย และจะบอกว่า รู้งี้น่าไปทำตั้งนานแล้ว 🙂

ให้เครดิตคุณหมอโบว์ ให้คำแนะนำดี ละเอียด ใจเย็น แถมน่ารักด้วย ถ้าสนใจก็ทักไปถามคุณหมอได้นะ”





ตื่นเช้ามาหลังทำเลสิค 1 วันโลกสดใส..

มีเพื่อนๆ หลังไมค์มาสอบถามด้วยความเป็นห่วงและอยากรู้ว่าทำเลสิค น่ากลัวไหม ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

เลยมีโอกาสได้รีวิวแบบฉบับที่ตัวเองเข้าใจและได้เจอกับตัวเอง หากเน้นวิชาการข้ามไปได้เลยน้า

..เริ่มเลยละกัน..

ทำไมถึงตัดสินใจทำเลสิค❓

❌เป็นคนที่ไม่ชอบใส่แว่นเป็นทุนเดิม เพราะเวลาใส่แว่นจะเห็นกรอบแว่นอยู่ในสายตาตลอด ไม่ชอบเป็นคนอยู่ในกรอบ 😅😅

❌ หน้าที่การงานของเรา บางครั้งต้องทำงานในที่มีแสงสว่างน้อย เรามีความรู้สึกว่าการใส่แว่นสายตากับการทำงานในที่มีแสงสว่างน้อยหรือหาของในที่มืดนั้นทำได้ลำบากกว่าการใช้ตามองโดยไม่ผ่านแว่น แถมบางครั้งมือเราหรือหน้าเราที่มีเหงื่อเจือไขมันเผลอไปโดนเลนส์แว่นก็งานเข้าเลย ต้องหาผ้ามาถูๆ เช็ดๆ ลำบากไปอี๊กก

❌ ไม่ชอบแว่นก็เลยหันมาใส่คอนแทคเลนส์ แรกๆ ใส่ก็โอเคดี แต่มักจะมีปัญหาช่วงระหว่างวัน หนักไปทางเย็นๆ ค่ำๆ เนื่องจากตามักจะแห้งช่วงเวลานั้น ทำให้รู้สึกว่าตาเรามีสิ่งแปลกปลอม และเวลาตาแห้ง ผลกระทบก็คือ ตาจะพร่าๆ มัวๆ ชั่วขณะ ซึ่งบางขณะก็ขับรถอยู่พอดี จังหวะนั้นก็ต้องพยายามกระพริบตาถี่ๆ หรือทำตัวเองให้หาวเรียกน้ำตา ซึ่งทำบ่อยๆ ก็กลายเป็นเสียบุคลิกไป ไม่ง่วงแต่ต้องหาวเพื่อให้น้ำตาออกมา แล้วทำไมไม่หยอดตาล่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่าการหยอดตาต้องรักษาความสะอาดพอสมควร ซึ่งบางครั้งจังหวะมันไม่ได้ และเรามองว่าการหยอดตานอกสถานที่ บางครั้งก็เสี่ยงกับเชื้อโรค และการที่เราคุยงานกับลูกค้า ประชุมไปแหกตาหยอดตาไป ก็ทำให้เสียบุคลิก

😃เหตุผลทั้งหมดจึงเริ่มเป็นที่มาของการหาข้อมูลและสถานที่ทำเลสิค

📍เริ่มจากหาข้อมูลการทำเลสิคผ่านเฟสบุ๊ค และเฮียมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กฉลาดมาก พอรู้ว่าเราเริ่มหาข้อมูลเฮียแกเอาข้อมูลมาให้อ่านเพียบ 😂😂😂

อ่านไปอ่านมามีถูกใจอยู่ 2 คุณหมอ เลยสอบถามข้อมูลเดียวกันไปกับ 2 คุณหมอ ซึ่งเป็นการถามตอบในเพจ + ไลน์ แต่สุดท้ายเลือกทำเลสิคกับคุณหมอโบว์ รพ ธนบุรีบำรุงเมือง

✅เหตุที่ตัดสินใจเลือกคุณหมอโบว์

เพื่อนๆ บางคนที่รู้จักเราดี จะรู้ว่าเราเป็นคนถามละเอียด ซอกแซก แบบต้องหาข้อมูลมาให้ได้ จนกว่าจะได้ข้อมูลที่มั่นใจ จนเพื่อนๆ สมัยทำงานแรกๆ ให้เกียรติตั้งสมญานามว่า เจ้าหนูจำไม 😂😂😂

การที่เราถามคำถามต่างๆ ถึงวิธีการ หลักการ เงื่อนไข ข้อควรปฏิบัติตัวก่อนและหลังการทำ จนกระทั่งได้คุยทางโทรศัพท์ (เพราะมีคำถามเยอะจนไม่รู้จะพิมพ์ออกมาเป็นตัวหนังสือยังไง)

เลยเพิ่งรู้ว่าตั้งแต่พิมพ์ถามในเพจ ในเฟส จนคุยทางโทรศัพท์ ทั้งหมด คุณหมอโบว์เป็นผู้ให้ข้อมูลเอง (คุณหมอให้คำแนะนำดีมาก จนเข้าใจและไม่กังวลใดๆกับการตัดสินใจทำ)

วันที่นัดเข้ามาตรวจตา ตั้งใจว่าจะมาทีเดียวเลย ถ้าตรวจตาผ่าน ก็จะได้ทำเลยไม่ต้องมาอีกวันให้เสียเวลางาน

✅สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนถึงวันนัด

- หากใส่คอนแทคเลนส์แบบนิ่มเป็นประจำ ต้องงดใส่ก่อนถึงวันนัดอย่างน้อย 4 วัน (คนส่วนใหญ่จะใช้คอนแทคเลนส์เป็นแบบนิ่มอยู่แล้ว ที่เวลาใส่มันจะพับไปพับมาได้)

- ใส่แว่นตาได้ปกติ หมอไม่ได้ห้ามอะไร

✅วันนัดหมาย

📌หมอนัดเช้าให้ไปถึงก่อน 8:00 เพราะเราตั้งใจผ่าเลยถ้าผลการทดสอบผ่าน (เหตุที่ต้องไปเช้าเพราะตอนทำการทดสอบจะต้องหยอดยาขยายม่านตา แต่ตอนผ่าต้องรอให้ม่านตาหดกลับมาปกติตรงนี้กินเวลา 2-4 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับแต่ละคน เพื่อจะได้ทันผ่าบ่าย)

📌ใส่เสื้อกระดุมหน้า เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนดวงตาตอนเปลี่ยนชุดเข้าห้องผ่าตัด

📌 งดน้ำหอม โรลล์ออน ทุกชนิด เพราะอาจจะส่งผลต่อการทำงานของเครื่องมือแพทย์

📌 สาวๆ ต้องงดแต่งหน้า

📌 ตอนเช้าไปถึงพยาบาลก็จะทดสอบสายตา (ที่ส่องบอลลูนสีๆ)

📌 จากนั้นก็จะต่อด้วยวัดค่าความดันลูกตา วัดความโค้งของกระจกตา (การทดสอบนี้จะทำให้เรารู้ว่ากระจกตาเราปกติ หรือบางกว่าปกติ มีผลต่อการเลือกแพคเกจการทำเลสิคครับ)

📌 และจบด้วยการวัดค่าสายตาดูตัวเลขเหมือนที่เราวัดตอนตัดแว่นสายตา

📌 จากนั้นพยาบาลก็พาไปหยอดยาขยายม่านตา หยอดไปหลายหยดอยู่ และนั่งรอเวลาม่านตาขยายเต็มที่ คุณหมอจะเป็นคนวัดสายตาเองอีกครั้ง (เปิดตัวเลขให้อ่านตามตัวเลข)

ตรงจุดนี้มีความพิเศษแปลก ๆ อยู่อย่างหนึ่งตอนม่านตาขยาย คือระหว่างรอม่านตาขยายก็ใส่แว่นเล่นมือถือฟีดข่าวหาอะไรอ่านไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าภาพในจอมือถือเริ่มเบลอ จากเบลอน้อยพอเดาตัวหนังสือได้จนกลายเป็นเบลอมัวไปหมด แต่พอถอดแว่นตาแล้วดูที่จอมือถืออีกครั้งภาพกลับชัด แต่ถ้ามองไกลใส่แว่นจะชัดปกติเหมือนไม่ได้ขยายม่านตา

มาได้คำตอบจากหมอทีหลังว่า เหตุผลที่ให้ยาขยายม่านตาเพราะ จะทำให้เวลาเราพยายามอ่านตัวเลขบนจอเป็นการเห็นที่เห็นจริงๆ ไม่ใช้การเพ่ง (การขยายม่านตาคือการตัดการเพ่งสายตาของเราออกไป) เพื่อให้ได้ค่าสายตาที่แน่นอน

หลังจากวัดค่าสายตาเสร็จ พยาบาลก็มาหยอดยาลดการขยายม่านตาลง จะทำให้ม่านสายตาหดตัวกลับมาเร็วที่สุด (แต่ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง) บางคนผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ม่านตายังไม่ยอมหดก็มี ก็ต้องรอจนกว่าม่านตาหด พยาบาลบอกใช้ยาหดม่านตามากไม่ได้ เด๊๋ยวจะเวียนหัว ก็ต้องนั่งรอไป

ระหว่างที่รอม่านตาหดก็ไปหาอะไรกินตอนเที่ยงพอดีแล้วกลับขึ้นมาตอนบ่าย แนะนำให้ติดแว่นกันแดดมาใส่ตอนที่รอม่านตาหดตัวด้วย เพราะตาจะไวแสงมาก แสงปกติบนท้องถนน แต่เราจะเห็นเหมือนแสงแดดจ้าๆ สว่างกว่าปกติเลย จึงต้องหาแว่นกันแดดมาเซฟดวงตาเราด้วย

ℹ️ ลืมบอกไปตอนต้นว่าหลังจากวัดความหนาของกระจกตาแล้ว กระจกตาเราบางกว่าปกติเล็กน้อย นั่นหมายความว่าเราอาจต้องเลือกทำเลสิคแบบ Femto Lasik ซึ่งเป็นการเปิดกระจกตาด้วยเลเซอร์ จะต่างจาก Lasik ธรรมดา ที่จะใช้ใบมีดเปิดกระจกตา สาเหตุที่คิดว่าต้องเลือก Femto เพราะ Femto เหมาะกับคนที่มีกระจกตาบาง ค่าใช้จ่ายของ Femto คือ 49,900 (55,000) ราคาจ่ายเต็มจำนวน ส่วนค่าใช้จ่ายของ Lasik จะอยู่ที่ 35,900 (38,000) เป็นราคาจ่ายเต็มจำนวนเหมือนกัน ถ้าเลือกแบบผ่อนราคาตามวงเล็บเลย สุดท้ายคุณหมอโบว์แนะนำให้เราทำ Lasik แบบใบมีดได้ เพราะกระจกบางกว่าปกติก็จริงแต่ค่าสายตาไม่ได้เยอะมาก เอาออกไม่เยอะ ซึ่งเราถามความแน่ใจกับคุณหมออีกครั้ง ซึ่งคุณหมอก็แนะนำดีมากกดตัวเลขคำนวณค่าต่างๆ และ บอกว่าเราทำ Lasik แบบใบมีดได้

✅ เตรียมตัวผ่าตัด

หลังจากกินข้าวเสร็จก็ขึ้นมารอเวลาม่านตาหด วันที่เราไปทำมีเพื่อนๆ มาทำนับได้ประมาณ 9 คน พยาบาลก็ให้ชุดมาเปลี่ยน (เปลี่ยนทั้งเสื้อและกางเกง) ตรงนี้แหละที่คุณหมอแนะนำว่าให้ใส่เสื้อแบบกระดุมหน้า เพราะจะได้หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณดวงตา

และจะมีสบู่ล้างหน้าและสบู่ล้างขนตาให้เราทำความสะอาดตัวเอง

พอเตรียมพร้อมแล้ว พยาบาลจะมาพาเราเข้าไปรอแถวๆ ห้องผ่าตัด และคุณหมอโบว์จะมาอธิบายการผ่าตัดอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจะมีการฉีดน้ำเย็นๆ ล้างตา มีการใส่อุปกรณ์ถ่างตา (ซึ่งพอใส่อุปกรณ์ตัวนี้แล้ว เราสามารถกระพริบตาได้ปกติ แต่ข้างที่ใส่อุปกรณ์เปลือกตาจะไม่ปิด) คนที่เลือกทำแบบใบมีด (รวมทั้งเราด้วย) จะได้ยินเสียงเครื่องเจียนิดหน่อยตอนเครื่องทำงาน และให้มองแสงสีเขียวตลอดการผ่าตัด ใครมีคำถามอื่นๆ ไหมคะ หมอโบว์ถาม แต่ทุกคนเงียบกริบ ตัวเกร็งกันไปหมดแล้วตั้งแต่บอกว่าจะได้ยินเสียงเครื่องเจีย แต่ถ้าเลือก Femto จะไม่มีเสียงนี้ เพราะใช้เลเซอร์เปิดกระจกตาแทนใบมีด

พอคุณหมอบอกว่า แล้วพบกันที่ห้องผ่าตัดนะคะ ใจหวิวๆ ชอบกล 😂😂 จากนั้นพยาบาลก็มาเช็คม่านตาของทุกคนว่าใครจะเป็นผู้โชคดีได้ทำก่อนและหลัง พร้อมหยอดยาชาเป็นระยะๆ จำได้ว่าน่าจะมากกว่า 5 หยด และสุดท้ายเราได้ทำเป็นคิวที่ 2 หลังจากที่พยาบาลพาคิวแรกไปได้ไม่นาน ประมาณ 10 นาที ก็ถึงคิวเรา (ผ่านไปไวมากถึงตาเราละ) พยาบาลเป็นคนจูงมือพาเดินไป

ภายในห้องผ่าตัด จะมีเครื่องมือใหญ่ๆ และมีที่เรียบๆ คล้ายเตียงนอน ส่วนบริเวณศรีษะจะเป็นหลุมลงไป คล้ายเตียงร้านนวด (เข้าใจว่าพอศรึษะอยู่ในหลุมนี้แล้วจะล็อกให้ศรีษะอยู่นิ่งๆ)

พอเราลงไปนอนก็จะได้ยินพยาบาลพูดคุยกันบอกตัวเลขอะไรไม่รู้เยอะแยะ เหมือนในหนังเลย หนึ่งร้อยสามสิบห้า ซ้าย ขวา วีเอฟ บลาๆๆๆ ทุกอย่างโอเค พร้อมนะ ปกตินะ พร้อมเริ่มกระบวนการ ฯลฯ ตอนนั้นรู้แต่หัวใจเต้นโครมคราม ความรู้สึกก็ไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น แต่หัวใจนี่สิ ไปแล้ว ตัวนี่นิ่งเลยล่ะ ด้านบนของเราที่เห็นจะเป็นลักษณะคล้ายจานดำๆ ขนาดใหญ่ประมาณ 30-40 ซม ในนั้นก็จะมีแสงสีเขียวกระพริบๆ มีแสงสีเหลืองกระพริบ เป็นระยะๆ ความรู้สึกคือดูอลังการดี ยังมีอารมณ์คิดแบบนั้นไปได้ 😂😂

✅ เริ่มขั้นตอนผ่าตัด

คุณหมอโบว์ก็จะให้สัญญาณทุกครั้งว่าทำอะไร เพื่อเราจะไม่ตกใจ เช่น จะบอกว่า จะมีน้ำเย็นๆ ฉีดเข้าที่ตานะ ขออนุญาตวางอุปกรณ์บนตาเรานะ นั่นคือ ที่ถ่างตา อีกซักพักบอกว่าจะเปิดกระจกตาเราแล้วนะจะมีเสียงใบมีดและมีเสียงเจีย ในความรู้สึกตอนนั้นก็คือ ไม่รู้สึกเจ็บใดๆ เลย แต่รู้ว่ากระจกตาเรากำลังจะถูกถอดออกไป ช่วงที่ถอดกระจกตาเป็นประสบการณ์ใหม่เลยคือ เราลืมตาอยู่แต่ภาพมันมืดดำไปชั่วขณะ มองอะไรไม่เห็นทั้งๆ ลืมตา และได้กลิ่นไหม้ๆ เล็กน้อยผ่านจมูก และช่วงเวลาสำคัญก็มาถึง คือคุณหมอและพยาบาลทุกคนจะบอกว่าให้นอนให้นิ่งที่สุดห้ามพยักหน้า ห้ามขยับศรีษะเด็ดขาด และให้เพ่งแต่แสงสีเขียว จากนั้นแสงสีเขียวก็จะกลายไปสีแดงพร้อมมีเสียงอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้ว่ากำลังเจียเลนส์ตาเรา (ใช้เวลาตรงนี้ต่อข้างประมาณ 10 วินาที) จากนั้นก็ปิดกระจกตากลับคืนพร้อมติดผ้าก๊อตไว้ก่อน แล้วก็ไปทำในแบบเดียวกันอีกข้าง ระหว่างนั้นก็จะได้ยินพยาบาลอ่านค่าตัวเลข และบอกผลที่ทำว่าเป็นที่พอใจ ค่าตัวเลขโอเค

กระบวนการผ่าตัดทั้ง 2 ข้างใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที แต่ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนจะนานกว่านั้น น่าจะ 30 นาทีได้ ฮ่าฮ่า จากนั้นก็ลุกจากเตียงไปนั่งที่เก้าอี้ที่มีเครื่องตรวจตาโดยพยาบาลจูงไป คุณหมอก็ส่องกล้องดูว่ากระจกตาปิดสนิทไหม แผลโอเคไหม แล้วก็เก็บรูปสวยๆ กับ คุณหมอตามในโพสเลย

✅ หลังการผ่าตัด

ความรู้สึกแรกหลังจากมองผ่านที่ครอบตาอุลตร้าแมน เหมือนชัดขึ้นนิดหน่อย แต่ยังมีเบลอๆ อยู่ กลับไปเปลี่ยนเสื้อและให้รีบกลับบ้านโดยเร็ว เพราะยาชาอยู่ได้ไม่นาน สิ่งที่เราต้องทำคือ นอนหลับให้ไวที่สุด เราเลยกินยาพารา และยานอนหลับ หลับไปตอนบ่าย 3 โมง ตอนนั้นยังชิลๆ แต่พอรู้สึกตัวตอนประมาณ 5 โมง (แฟนเป็นคนบอกเวลาเพราะลืมตาไม่ขึ้น) ปรากฏว่าลืมตาไม่ขึ้นชนิดที่เรียกว่า ลืมตาเมื่อไหร่ น้ำตาพุ่งกระฉูดเมื่อนั้น ลืมตาไม่ได้เลย เหมือนมีทรายหรืออะไรไม่รู้ทำให้เคืองตา รู้ทันทีว่าต้องนอนให้ได้ เลยกินพาราและยานอนหลับไปอีก 1 เม็ด นอนต่อ ข้าวเย็นไม่ได้กิน ตื่นอีกทีประมาณ สี่ทุ่ม คราวนี้ตื่นมาอาการที่ว่าหายไปเกือบหมด ถ้าตอนห้าโมงคะแนนความทรมานคือ 10/10 ตอนสี่ทุ่มคือ 2/10 ดีขึ้นเหลือเชื่อ เลยมีอารมณ์ลงมากินโจ๊กและมองผ่านที่ครอบตาอุลตร้าแมน ภาพชัดขึ้นมาก เหมือนตอนใส่คอนแทคเลนส์ แต่มองได้ทีละข้างนะ เพราะที่ครอบมันจะมีรูเล็กๆให้มองลอดช่อง ซึ่งแต่ละข้างโฟกัสรูไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน พอกินโจ๊กเสร็จเพื่อการพักผ่อนที่เพียงพอ เลยอัดยานอนหลับไปอีก 1 เม็ด หลับปุ๋ยถึงเช้า (วันนี้ทั้งวันหลังผ่าไม่รู้สึกเพลียเลย เหมือนได้นอนเต็มอิ่มจริงๆ ไม่เคยรู้สึกนอนเต็มอื่มแบบนี้นานแล้ว)

✅ เช้าตื่นมายังคิดอยู่เลยว่าจะไปทำงานได้ไหม ปรากฏว่าตื่นมา 6 โมงกว่า เพราะมีนัดตรวจตาอีกทีตอน 8 โมง ตื่นมานึกว่าใส่คอนแทคเลนส์นอน ภาพชัดแจ๋ว ที่ต่างจากคอนแทคเลนส์คือ ไม่เคืองตา ไม่รู้สึกว่ามีอะไรอยู่ในตา และตาไม่แห้ง คือดีย์ ชอบเลย และจะบอกว่า รู้งี้น่าไปทำตั้งนานแล้ว 🙂

ข้ามเรื่องการจ่ายตังรับยาและอุปกรณ์ทำความสะอาดไปนิด คือที่นี่เค้าให้จ่ายเงินรับยาก่อนไปกินข้าวเที่ยง พี่สาวเราที่ไปเฝ้าก็ถามเราว่าทำไมรีบให้ยามา ยังไม่ได้ผ่าเลย ก็มาถึงบางอ้อก็คือ หลังจากผ่าเสร็จเค้าให้รีบกลับไปนอนให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้ายาชาหมดฤทธิ์ความทรมานก็จะบังเกิด ดีที่เรากินยานอนได้เลยไม่ค่อยทรมานเท่าไหร่ ตื่นเช้ามาปกติดีทุกอย่าง อาการเจ็บปวดอะไรก็ตาม ไม่มีซักนิดเดียว มีแต่ความชัดระดับ 4K จริง ๆ 👍👍👍

📍end credit : เพิ่งรู้ว่าไอเครื่องที่ตรวจตาตอนตัดแว่นที่เราจะเห็นบอลลูนอยู่ข้างใน ถ้าตาปกติมันจะต้องชัดตั้งแต่ส่องครั้งแรก ไม่ใช่เบลอๆ แล้วก็ชัด ก็วันนี้

ปล ค่าสายตาที่วัดวันนี้ เป็น 0 แล้วจ้า ดีใจจริง 🎉🎉🎉

❤️ ให้เครดิตคุณหมอโบว์ ให้คำแนะนำดี ละเอียด ใจเย็น แถมน่ารักด้วย ถ้าสนใจก็ทักไปถามคุณหมอได้นะ คุณหมอออกตรวจ 3 แห่งมั้ง เดี๋ยวแนบรูปไปให้ 🙏👏👏

Comments


bottom of page