รีวิวการทำเลสิค Perfect Eyes by หมอโบว์
ขอเกริ่นที่ไปที่มาเก็บไว้ให้ตัวเองจำ
เหตุเริ่มจาก เราอยากจะทำมานานแล้ว แต่ราคาสมัยนั้นยังจับต้องไม่ได้ จนรอถึงปัจจุบัน ทำให้สายตาเรา มีทั้งสั้นและยาวเพิ่มขึ้นมาตามอายุ และตัวเราเริ่มรำคาญกับการถอดๆใส่ๆแว่น จนขาแว่นเริ่มจะรับไม่ไหว *ปล1 : ปรับขาแว่นก็ได้นะ
แต่เราก็เริ่มหาเหตุผลให้ตัวเองอีกครั้งในการที่จะทำ lasik 1. ราคาคิดว่าถูกลงนะ แถมมีผ่อน 0% 10 เดือนด้วย เราเลือกแบบ #Femto ถ้าจ่ายเต็มอยู่ที่ 49,990 บาท หรือถ้า 0% 10 เดือน ก็จะ 55,000 บาท 2. มีรุ่นน้องทำ พร้อม มารีวิว ว่า “ชิวมากพี่ ทำเลย” 3. มีเวลาพักสายตา 4. อยากทำแหล่ะ (final decision)
ถึงกระนั้นยังมีลังเลอยู่หลายวันก่อนถึงวันนัด เพราะกลัวเจ็บ ในที่สุดก็ไปตามนัด เมื่อไปถึงโรงพยาบาล จะมีการตรวจ ATK ก่อน พอผลขีดเดียว (ไม่ท้อง ) ก็ขึ้นไปชั้น 4 ศูนย์เลสิก
หลังจากนั้นจะมีการวัดสายตา ก็เป็นไปอย่างที่รู้ๆกันว่า ตัวเรานั้นมีทั้งสายตาสั้นและยาว ซึ่งเรา ก็ไม่อยากเก็บเค้าไว้ทั้งสองแบบ แต่ อ่ะนะ lasik ก็มีบอกไว้ชัดเจนว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาสายตายาวตามอายุได้ ~ ~~~~ เอาล่ะสิ ทำไง ? เจ้าหน้าที่เลยให้เรารอคุยกับ#หมอโบว์ ก่อน ว่าจะทำไหม เพราะ จะแก้ไขสั้นหมด ก็จะเหลือยาว ก็ต้องใส่แว่นตาอยู่ดี
* ปล2 : ตอนนี้ตัวเองใส่แว่นแบบ progressive อยู่นะ แต่เวลาทำงานหน้าคอมหรืออ่านหนังสือ เราไม่ใส่แว่น จะสบายตากว่า ซึ่งคุณหมอโบว์อธิบายว่า เพราะเรามีทั้งสั้นและยาว ก็เลยมีจุดนึงที่เค้าชดเชยกัน แต่ ถ้าสายตายาวเพิ่ม ก็ต้องปรับค่าสายตาอยู่ดี งั้นจะทำต่อไหม?
เกริ่นมาตั้งยาวเหยียด ชนะเหนือเหตุผลทั้งปวง คือ อยากทำ …จบ…
#คุณหมอโบว์ เลยแนะนำแบบ #Monivision คือแก้ไขสายตาหลักให้ปกติ ส่วนสายตารองก็คือลดสายตาสั้นลงมาหน่อย เพื่อให้สามารถอ่านหนังสือด้วยตาเปล่า ได้ ระยะหนึ่ง anyway finally ก็ต้องมีแว่นสายตายาว เมื่อถึงวัย หลังจากสรุปได้ละว่าระยะไหนที่เราจะมองชัดโดยที่ไม่ใส่แว่น ณ เวลานี้ ก็ไป step ถัดไป คือ หยอดยาขยายม่านตา และให้หมอตรวจอีกครั้ง มั่นใจละ ก็รอทำ lasik ภาคบ่ายได้เลย ~ ระหว่าง รอ ก็ ไปจ่ายเงิน รับยา หาอะไรรองท้องรอบ่าย ~
ถึงเวลาที่รอคอย หลังจากปลี่ยนเสื้อผ้า คุณหมอโบว์มาอธิบายขั้นตอนอย่างละเอียด เราได้คิวที่สอง ก็มีการหยอดยาชากันไป พอถึงคิว หมอและเจ้าหน้าที่บอก สบายๆ นะคะ ไม่ต้องเกร็ง ~ ทำได้ไหม บอกเลยว่าไม่ 555 เกร็งขั้นสุด จนน้องๆผู้ช่วยหมอถามว่า “พี่โอเคไหมคะ เงียบมาก” เราก็โอเคค่ะ แต่เกร็งมากๆ กลัวแหล่ะ ดูออก!!!
และแล้วทำเลสิกทั้งสองข้างก็เสร็จเรียบร้อย ใช้เวลาแค่ 15 นาทีเอง กลัวอะร๊ายยย ~ จากนั้นคุณหมอก็จะเช็คแผลอีกรอบว่าปิดดีไหม และคุณหมอย้ำว่า อาการหลังทำ lasik จะเหมือนมีทรายในตา และน้ำตาไหล ให้ทานยาแก้ปวด กับ ยานอนหลับ ที่จ่ายมาให้ แล้วนอนยาวไปเลย 4-6 ชม จะดีขึ้น ตอนนั้นยังไม่ get ทรายในตาเป็นไงหว่า? แต่เอาเถอะ ทำละ…ป่ะ กลับบ้าน
กลับมาถึงบ้าน อาการเพิ่มขึ้นมาคือ อ้วกก่อนเลย (อาจจะมาจากร่างกายเราเองมั๊ง) หลังจากนั้น ยาแก้ปวด ยานอนหลับก็มา นอนยาวจากบ่ายสามถึงสองทุ่ม ตื่นมาก็ถึงบางอ้อว่า ไอ้ที่ว่าทราย ก็คือ ฝุ่นมันเข้าตา 555 น้ำตาไหลพราก เล่นมิวสิคไปเลย ”ที่เธอเห็นแค่ฝุ่นมันเข้าตาฉันไม่ได้ร้องไห้”
โดยสรุป (เหรอ) ตื่นมามองไกล สายตาชัดเจน ยังมีเคืองตาบ้างนิดหน่อย ส่วน มองใกล้ในระยะอ่านหนังสือคงต้องปรับตัวกันไป หมอบอกว่าระยะที่ทดไว้ ร่างกายจะค่อยๆปรับ อาจจะต้องใช้เวลา 1-2 เดือน เพราะสายตายาวอยู่ (ไม่ได้แก่ แค่หลักอายุมันเยอะ )
*ปล 3 : วันที่ รีวิว เป็นวันที่ 3 หลังทำ สังเกตสายตาตัวเองเริ่มอ่านในระยะใกล้ชัดขึ้น เปรียบเทียบจากวันแรกที่ พร่ามากจนตกใจ
เขียนมาซะยาวเหยียด ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากจะรีวิวว่า #คุณหมอโบว์ มือเบามาก ไม่เจ็บ ~ คนกลัวเจ็บ (ป๊อด) อย่างเราทำได้ คนอื่นก็ทำได้ล่ะ
สนใจก็สอบถามหน้าเพจได้เลยจ้า admin ตอบเร็ว
Comments